น้ำมันมะรุม กับ คุณสมบัติที่ช่วยชลอความแก่

น้ำมันมะรุมมีประโยชน์มากต่อผิวหนังและช่วยชลอความเหี่ยวย่นได้อย่างไร

  • จากการทดลองที่ผ่านมากที่ทำโดยนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง และแพทย์ศัลยกรรมพลาสติกค้นพบว่ามีไวตามินและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติหลายชนิดที่ช่วยชลอ ฟิ้นฟูสภาพของผิวได้ ซึ่งมีหลายชนิด เช่น

  • แปลจากต้นฉบับของ Avon Howard Jr. (Articles base SC#697770) Mr. Howard เป็นผู้เชี่ยวชาญ และที่ปรึกษาให้กับธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพมากว่ายี่สิบปี มีผลงานวิจัยเป็นจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบของพืชสมุนไพรสกัดเข้มข้นต่อมนุษย์ มีความรู้กว้างขวางในเรื่องของผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจให้เป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ผลิตอาหารเสริมชั้นนำต่าง ๆ
  • ริ้วรอยต่าง ๆ ถึง 90% ที่เกิดบนผิวล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับการที่เราต้องอยู่ภายใต้แสงแดดเป็นระยะเวลาติดต่อกันนาน ๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้เกิดจาก DNA ในเซลล์ผิวหนังถูกทำลายหรือเสื่อมสภาพจากรังสีอุลตราไวโอเล็ตที่มีอยู่ในแสงแดด เมื่อโดนแสงแดดอยู่เป็นประจำก็ทำให้ความสามารถ สภาพของเซลล์โดยร่างกายของเราเองทำงานต่ำลง ผลก็คือผิวหนังมีความยืดหยุ่นน้อยลง มีสภาพแห้งกร้าน ชั้นไขมันบาง ๆ ใต้ผิวหนังถูกทำลายไป ทำให้เกิดสภาพผิวหนังหย่อนยาน ขาดความเรียบตึง และกลายเป็นริ้วรอยเหี่ยวย่นเกิดขึ้นบนผิวหนัง

ไวตามิน เอ (Retinol)

  • ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเพิ่มเส้นไยคอลลาเจนใต้ผิวหนัง และทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดลอกออกมาได้ง่าย ซึ่งผลที่ตามมาก็คือทำให้ริ้วรอยบนผิวหนังดูตื้นขึ้นและจางลง นน้ำมันมะรุมมีไวตามิน เอ สูงกว่าที่ได้จากแครอทถึง 4 เท่า

ไวตามิน ซี หรือ ในทางวิชาการเรียก Ascorbic acid

  • ทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนสำคัญที่ช่วยสมานแผลบนร่างกายเนื่องจากทำหน้าที่ในคงความสมดุลของคอลลาเจน เมื่อใช้ไวตามิน ซี ในปริมาณที่เหมาะสมสามารถช่วยริ้วรอยให้ลดลงได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยทำให้ผิวเสียจากการตากแดดน้อยลงด้วย เมื่อทาไวตามิน ซี ลงบนผิวหนังโดยตรงก็ช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น ในน้ำมันมะรุมมีไวตามิน อี สูงกว่าในส้ม 0.5 เท่า
  • ไวตามิน อี เป็นสารทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระอีกชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ป้องกันอาการอักเสบบนผิวหนัง เมื่อนำไวตามิน อี ทาลงบนผิวหนังจะเห็นได้ว่าทำให้ผิวเนียขึ้น นุ่มขึ้น ชุ่มชื้นขึ้น อย่างรวดเร็ว ในน้ำมันมะรุมมีปริมาณไวตามินอีสูง

น้ำมันมะรุมถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ

  • มาเป็นเวลานานแล้วเพราะช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดริ้วรอย สามารถซึมเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังได้ง่าย เร็ว และลึกกว่า และในที่สุดก็กระจายไปตามกระแสเลือดที่ไหลเวียนในร่างกาย ฉะนั้นน้ำมันมะรุมสามารถนำไปชโลมผิวแล้วนวดเบา ๆ ให้น้ำมันซึมสู่ใต้ผิวได้ลึกขึ้นเพื่อประโยชน์สูงสุดในด้านต่อต้านอนุมูลอิสระให้กับเซลล์ผิวหนัง และป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว
  • เมื่อสารต่อต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดถูกนำมารวมกันก็จะทำให้มีประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้เพียงชนิดเดียว ในน้ำมันมะรุมมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติแท้ ๆ รวมอยู่ถึง 46 ชนิด เนื้อของน้ำมันมีลักษณะใกล้เคียงกับน้ำมันมะกอกแต่มีความบางเบากว่ามาก มีประสิทธิภาพสูงที่ช่วยทำให้ผิวเนียนเรียบ
  • จากคุณสมบัติดังกล่าวทำให้น้ำมันมะรุมถูกใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางค์บำรุงผิวชั้นสูง และใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม สบู่ และเป็นส่วนผสมของน้ำมันนวดตัว น้ำมันชโลมบำรุงผิว

 

ที่มา

www.alodiaspaproducts.com
www.alodiathailand.com

ผลที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล และ การดำเนินชีวิตในประจำวันที่ถูกต้อง